ภาพรวมการทำงาน
ระบบ PoPo ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเห็นค่าจากเซนเซอร์แบบสด ๆ (Real-time) ผ่านแอปมือถือ โดยไม่ต้องกด Refresh หรือรอโหลดใหม่ ข้อมูลจะถูกส่งจาก ESP32 ผ่าน WebSocket มายังแอปทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลง
- ESP32 → อ่านค่าจากเซนเซอร์ (DHT22, Soil Moisture, Light Sensor ฯลฯ)
- ส่งค่าเป็น JSON ผ่าน WebSocket
- แอป PoPo → แสดงผลใน Sensor Card แบบอัปเดตอัตโนมัติ
การส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์จำเป็นต้องมีบอร์ดที่รองรับการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง ESP32 ถือเป็นบอร์ดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงาน IoT และสมาร์ทฟาร์ม”
โครงสร้างการส่งค่าเซนเซอร์
บนฝั่ง ESP32 จะมีการอ่านค่าเซนเซอร์ใน loop โดยใช้ DevaTimer กำหนดช่วงเวลา เช่น ทุก 2 วินาที จากนั้นจึงส่งข้อมูลเป็น JSON ไปยังแอป
ตัวอย่าง JSON ที่ส่งจาก ESP32:
“type”: “sensor”,
“temp”: 28.5,
“humi”: 70,
“soil”: 60,
“light”: 800
}
ประเด็นสำคัญ:
- type: sensor → ใช้บอกฝั่งแอปว่าเป็นข้อมูลเซนเซอร์
- ค่าตัวเลข (temperature, humidity, soil moisture, light) จะเปลี่ยนไปตามการอ่านจริง
- ช่วงเวลาที่ส่ง (interval) ควรอยู่ที่ 1–5 วินาที เพื่อให้สดใหม่และไม่หนักระบบเกินไป
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของระบบ PoPo อาศัยการทำงานของ ESP32 WiFi ที่ช่วยให้บอร์ดสามารถส่งค่าจากเซนเซอร์ไปยังแอปได้แบบเรียลไทม์”
การแสดงผลบนแอป PoPo
เมื่อแอป PoPo ได้รับข้อมูล JSON → จะนำไปแสดงผลใน Sensor Card ทันที โดยมีการออกแบบ UI ที่เข้าใจง่าย เช่น:
แสดงค่า Temp, Humi, Soil, Light แบบ Real-time
เปลี่ยนสีหรือใส่ Icon เมื่อค่าเกิน setpoint (เช่น Soil ต่ำเกินไป → สีแดง พร้อมแจ้งเตือน ต้องแก้โค้ดเพิ่มเติม)
ผู้ใช้สามารถเลือกเปิด/ปิดการแสดงผลเซนเซอร์บางตัวได้
ตัวอย่างการแสดงผล:
🌡️ Temp: 28.5 °C
💧 Humi: 70 %
🌱 Soil: 60 %
☀️ Light: 800 lux
เทคนิคการทำให้ข้อมูล “สดใหม่” เสมอ
PoPo เลือกใช้ WebSocket แทน HTTP Polling เพราะ:
- WebSocket → เชื่อมต่อครั้งเดียว รับ–ส่งข้อมูลต่อเนื่องแบบ Realtime
- HTTP Polling → ต้องดึงข้อมูลซ้ำ ๆ (Request → Response) → หน่วง + สิ้นเปลืองทรัพยากร
ในฝั่ง ESP32 การรับ–ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์มักใช้ ESPAsyncWebServer ซึ่งรองรับการเปิด WebSocket สำหรับส่งข้อมูลเซนเซอร์ได้อย่างต่อเนื่อง”
การจัดการปัญหา Realtime
- ถ้า WiFi หลุด → มีระบบ Reconnect อัตโนมัติ
- กำหนดค่า Interval ชัดเจน เช่น ทุก 2000ms เพื่อให้ UI ไม่กระตุก
ข้อควรระวัง
- ส่งถี่เกินไป (เช่น 100ms) → ESP32 หน่วง, แอปแล็ก, แบตมือถือหมดเร็ว
- ค่าเซนเซอร์ไม่นิ่ง → ทำให้ UI กะพริบ ต้องใช้ average หรือ filter
- เครือข่ายไม่เสถียร → WebSocket อาจหลุด ควรมีระบบ retry
การต่อยอด
ระบบ Realtime Sensor ของ PoPo ไม่หยุดแค่การแสดงผล แต่ยังสามารถต่อยอดได้:
- บันทึกค่า → ลง Database (Local Server / Firebase / SD Card)
- วิเคราะห์ย้อนหลัง → แสดงกราฟการเปลี่ยนแปลง เช่น Temp/Humi รายวัน
- ระบบแจ้งเตือน → ส่งTelegram เมื่อค่าผิดปกติ เช่น Soil ต่ำเกินไป → แจ้ง “ดินแห้ง ควรรดน้ำ”
- Data Logging → ใช้ในการวิจัย, ปรับสูตรการปลูก, หรือการเรียนการสอน
✅ สรุป:
การส่งค่าเซนเซอร์แบบ Realtime คือ จุดเด่นสำคัญ ของ PoPo เพราะผู้ใช้จะเห็นสภาพฟาร์มแบบสด ๆ ทำให้ควบคุมอุปกรณ์ได้ตรงจังหวะ ปรับปรุงการปลูกได้ง่าย และต่อยอดไปสู่ระบบแจ้งเตือนและวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะในอนาคต
🚀 เริ่มต้นใช้งาน PoPo วันนี้
อยากลองทำฟาร์มอัจฉริยะด้วย ESP32 + แอปมือถือ?
**PoPo Control Pack** รวมโค้ด, แอป, วิดีโอ และคู่มือครบถ้วน
เริ่มได้ทันที ไม่ต้องเขียนใหม่
👉 ดูรายละเอียด PoPo Control Pack
❓ FAQ: การส่งค่าเซนเซอร์แบบเรียลไทม์ใน PoPo
1. PoPo ส่งค่าเซนเซอร์แบบเรียลไทม์ได้อย่างไร?
PoPo ใช้ ESP32 อ่านค่าเซนเซอร์แล้วส่งผ่าน WebSocket มายังแอปมือถือ ทำให้ข้อมูลอัปเดตทันทีแบบสด ๆ โดยไม่ต้องกดรีเฟรช
2. ทำไมต้องใช้ WebSocket แทน HTTP Request?
เพราะ WebSocket เชื่อมต่อครั้งเดียวและสามารถส่งข้อมูลต่อเนื่องได้ทันที เหมาะกับการทำ Realtime มากกว่า HTTP ที่ต้อง request-response ซ้ำ ๆ
3. ค่าเซนเซอร์ที่รองรับในระบบ PoPo มีอะไรบ้าง?
ค่าเซนเซอร์มาตรฐาน เช่น อุณหภูมิ (DHT22), ความชื้นอากาศ, ความชื้นดิน (Soil Moisture), แสง (Light Sensor) และสามารถเพิ่มเซนเซอร์ใหม่ได้ เช่น pH, EC, MQ2
4. ควรส่งค่าถี่แค่ไหนเพื่อให้ระบบทำงานเสถียร?
แนะนำทุก 1–5 วินาทีต่อครั้ง ถ้าส่งถี่เกินไป ESP32 อาจหน่วงและแอปมือถืออาจค้าง
5. ถ้า WiFi หลุด ค่าเซนเซอร์ยังส่งได้หรือไม่?
เมื่อ WiFi หลุด WebSocket จะตัดการเชื่อมต่อ แต่ PoPo มีระบบ Reconnect อัตโนมัติ เมื่อเชื่อมต่อใหม่จะส่งค่าเซนเซอร์ต่อได้ทันที
6. PoPo มีการเก็บค่าเซนเซอร์ย้อนหลังหรือไม่?
เวอร์ชันมาตรฐานจะแสดงผลแบบเรียลไทม์ แต่สามารถต่อยอดบันทึกค่าแบบ Data Logging ลง SD Card, Firebase หรือ Local Server ได้
7. ถ้าค่าเซนเซอร์แกว่งมาก ๆ ควรทำอย่างไร?
ควรใช้การกรองค่า เช่น ค่าเฉลี่ย (average), ค่า moving average หรือ debounce เพื่อทำให้ค่าเสถียรก่อนส่งไปที่แอป
8. สามารถใช้ PoPo กับการปลูกพืชในร่มได้ไหม?
ได้ ระบบ Realtime Sensor ช่วยให้ควบคุมไฟ ปั๊มน้ำ และพัดลมได้ตรงจังหวะ เหมาะกับทั้งฟาร์มในร่มและกลางแจ้ง
9. การแสดงผลบนแอป PoPo รองรับกี่เซนเซอร์พร้อมกัน?
ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า ผู้ใช้สามารถเพิ่ม/ลบการแสดงผลเซนเซอร์ได้ และระบบรองรับการส่งหลายค่าพร้อมกันผ่าน JSON
10. ถ้าต้องการแจ้งเตือนเมื่อค่าผิดปกติทำได้หรือไม่?
ทำได้ สามารถตั้งค่าให้ PoPo แจ้งเตือนผ่าน Telegram เมื่อค่าเซนเซอร์เกิน setpoint
